“KBank Private Banking” ปี 67 คาดเติบโต 15 - 20% ต่อเนื่อง

“KBank Private Banking” ปี 67 คาดเติบโต 15 - 20% ต่อเนื่อง แนะนำลงทุนพอร์ต K-ALPHA ช่วงตลาดหุ้นไทยลงแรง

.

นายจิรวัฒน์ สุภรณ์ไพบูลย์ ประธานกรรมการบริหาร, ไพรเวท แบงกิ้ง กรุ๊ป ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ในปี 2566 มีจำนวนลูกค้าที่อยู่ในความดูแล 13,269 ราย เพิ่มขึ้น 2% จากปี 2565 และ มีสินทรัพย์ภายใต้การจัดการ (AUM) ทั้งหมดประมาณ 9 แสนล้านบาท (857,251 ล้านบาท) ลดลง 4% จากปี 2565 โดยจำแนกออกเป็น การลงทุนระยะยาว 53% การลงทุนระยะสั้น 11% และ อยู่ในรูปแบบออมทรัพย์ 36% นั่นเอง


เนื่องจากการลงทุนในปี 2566 มีแนวโน้มดีขึ้น ตลาดหุ้นโลกปรับตัวสูงขึ้นถึงกว่า 17%* โดยได้ปัจจัยสนับสนุนมาจากแนวโน้มการสิ้นสุดของวัฏจักรดอกเบี้ยขาขึ้น อย่างไรก็ดี ความเสี่ยงด้านความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างประเทศยังคงสร้างแรงกดดันอยู่ สำหรับผลตอบแทนของตลาดหุ้นแยกเป็นรายประเทศ พบว่าตลาดหุ้นญี่ปุ่น (Nikkei225) และสหรัฐฯ (S&P500) ปรับตัวสูงขึ้น 30%* และ 21%* ตามลำดับ โดยในฝั่งสหรัฐฯ เป็นผลมาจากหุ้น 7 นางฟ้า (Magnificent 7) ที่ปรับตัวขึ้นมาอย่างดี ในขณะที่ SET Index ของไทยเป็น 1 ในดัชนีตลาดหุ้นที่ปรับตัวลงมากที่สุดถึงประมาณ - 15%* และหากแยกผลตอบแทนเป็นรายสินทรัพย์ พบว่าตลาดหุ้นโลกปรับตัวขึ้นได้ดีที่สุด รองลงมาเป็นทองคำ ในขณะที่ตราสารหนี้ส่วนใหญ่บวกได้เล็กน้อย ในทางกลับกันการลงทุนในน้ำมันส่งผลลบในปีนี้


โดยทางบริษัทฯ เล็งเห็นถึงความสำคัญในการเลี่ยงความเสี่ยง จึงแนะนำการลงทุนในพอร์ต K-ALPHA ที่สามารถรักษาระดับผลตอบแทนได้ดี ในขณะเดียวกันสินทรัพย์นอกตลาดได้รับความสนใจต่อเนื่อง โดย 3 กองทุนที่เปิดใหม่ปีนี้ระดมทุนได้รวมกว่า 3 พันล้านบาท พร้อมให้ความสำคัญกับการเก็บรักษาและส่งต่อความมั่งคั่งด้วยบริการที่ปรึกษาบริหารจัดการทรัพย์สินครอบครัวที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการ  


พอร์ต K-ALPHA มีโครงสร้างการลงทุนแบ่งเป็นพอร์ตหลัก (Core Portfolio) และพอร์ตเสริม (Satellite Portfolio) โดยพอร์ตหลักจะลงทุนในสินทรัพย์หลากหลายทั่วโลกในสัดส่วนที่เหมาะสมกับเป้าหมายของนักลงทุนในระยะยาว ขณะที่พอร์ตเสริมจะบริหารเชิงรุกทั้งในหุ้น ตราสารหนี้ และเฮดจ์ฟันด์ (Hedge Funds) ให้ตอบรับกับสถานการณ์เศรษฐกิจและตลาดการเงิน ณ ขณะนั้น โดยในปีนี้ K-ALPHA มีผลตอบแทนดีขึ้นทั้ง 3 โมเดล ได้แก่ Conservative 1.5%*, Moderate 1.4%* และ Aggressive 1.3%* โดยกลุ่มกองทุน K-ALLROADS Series ที่เป็นพอร์ตหลักสร้างผลตอบแทนเป็นลำดับต้นๆ ของกลุ่มกองทุนรวมผสมในประเทศไทย** สำหรับกองทุนเด่นในพอร์ตเสริมทั้งในส่วนของหุ้น ตราสารหนี้ และเฮดจ์ฟันด์ ได้แก่ TBRAND, UPINCM-N และ DAOL-FXALPHA-UI ตามลำดับ


ในปี 2566 KBank Private Banking นำเสนอบริการผ่านกลยุทธ์โซลูชัน 4 เสาหลัก เพื่อส่งมอบบริการบริหารความมั่งคั่งอย่างครบวงจร ประกอบด้วย Risk-based Asset Allocation, Alternative Investment การนำเสนอนวัตกรรมการลงทุนทางเลือกด้วยผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายในสินทรัพย์นอกตลาด (Private Asset) ไม่ว่าจะเป็นกองทุนอสังหาฯ นอกตลาด กองทุนหุ้นนอกตลาดในกลุ่มธุรกิจที่เริ่มก่อตั้งกิจการ และกองทุนหุ้นจีนนอกตลาด เป็นต้น, Sustainabiltiy Investment กลยุทธ์การลงทุนภายใต้แนวคิดโลกที่ยั่งยืน รวมไปถึงบริการที่ปรึกษาด้านการบริหารจัดการทรัพย์สินครอบครัว มีลูกค้ารวมประมาณ 820 ครอบครัว คิดเป็น 39% AUM ประมาณ 1.9 แสนล้านบาท โดยในปี 2566 ได้เพิ่มบริการแก้ไขความขัดแย้งของครอบครัว  (Reconciliation Service) 


สำหรับทิศทางการลงทุน KBank Private Banking ประเมิน 3 แนวโน้มของเศรษฐกิจในปี 2567 ได้แก่ 1) เศรษฐกิจโลกจะเติบโตต่อได้ แต่ในอัตราที่ชะลอลง โดยสหรัฐฯ สามารถเลี่ยงภาวะถดถอย ยุโรปค่อยๆ ฟื้นตัว ขณะที่จีนกำลังรอมาตรการกระตุ้นเพิ่มเติม 

2) เงินเฟ้อจะลดลง ธนาคารกลางจะหยุดขึ้นดอกเบี้ย และจะเริ่มลดดอกเบี้ยในไตรมาส 2 หรือครึ่งหลังของปี 

3) ตลาดจะจับตาประเด็นการเมือง โดยเฉพาะการเลือกตั้งสหรัฐฯ ความสัมพันธ์ระหว่างจีน-สหรัฐฯ รวมทั้งความขัดแย้งในตะวันออกกลาง โดยพอร์ตการลงทุนที่แนะนำคือ เงินลงทุนส่วนใหญ่ (50-70%) ให้ลงทุนเป็นพอร์ตหลักในกองทุนผสมแบบ Risk-based asset allocation และเงินลงทุนในพอร์ตเสริม (30-50%) ให้กระจายลงทุนในตราสารหนี้คุณภาพดีทั้งพันธบัตรและหุ้นกู้ เพราะดอกเบี้ยรับที่สูงกว่าอดีตและโอกาสที่ราคาจะเพิ่มขึ้นเมื่อดอกเบี้ยในตลาดปรับลดลง  ด้านตลาดหุ้นยังมีความท้าทายจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัว จึงควรเน้นกองทุนที่บริหารเชิงรุกในหุ้นเติบโตทั่วโลกและหุ้นเอเชียที่ราคาถูกกดดันมามากทั้งในตลาดหุ้นไทย จีน อินเดีย รวมทั้งเวียดนาม สำหรับ Hedge Funds ที่จะช่วยลดความผันผวนและสร้างผลตอบแทนที่ไม่อิงกับภาวะตลาด ควรเน้นสินทรัพย์อ้างอิงในตลาดใหญ่ที่มีสภาพคล่องสูง เช่น ตลาดหุ้นสหรัฐฯ และตลาดอัตราแลกเปลี่ยนเงินสกุลหลัก


ทางธนาคารยังได้รับ 13 รางวัล จาก 12 สถาบันระดับสากลทั่วโลกการันตีและตอกย้ำความเป็นผู้ให้บริการไพรเวทแบงก์ชั้นนำของประเทศไทยในระดับสากล 


#KBankPrivateBanking #พอร์ตK_ALPHA #หุ้นไทยตก